“ชาคริต” ลั่นมีรักใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย! ขอโฟกัสงานและดูแลแม่ป่วยหนัก

หลังจากเลิกรากับอดีตภรรยา “วุ้นเส้น วิริฒิภา” ฟากหนุ่ม “ชาคริต แย้มนาม” ก็ถูกจับตามองเรื่องสาว ๆ อยู่ตลอด ทำเอาเจ้าตัวถึงกับเซ็ง เพราะการมีรักครั้งใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย เน้นว่าตอนนี้ขอทุ่มเทเวลาให้กับงาน และดูแลคุณแม่ที่ป่วยเส้นเลือดในสมองแตก แถมยังต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษเพราะโรคนี้เป็นกรรมพันธุ์ ได้เจอหนุ่มชาคริตในงาน “เปิดตัวผลิตภัณฑ์ blackphone2 ไพรเวซี่ สมาร์ทโฟนเครื่องแรกในไทย ที่มีความปลอดภัยสูงที่สุดในโลก” เจ้าตัวเผยว่า

คนยังจับตาเรื่องสาวคนใหม่ของชาคริต?
"ตอนนี้คงยัง ไปเรื่อย ๆ ก่อน เราเองก็เป็นคนมีเพื่อน เพื่อนๆ เริ่มชินแล้ว ญาติพี่น้องก็ชิน เมื่อก่อนไม่ค่อยมีใครกล้าออกมากินข้าวกับผม เพราะเขาไม่อยากตกเป็นข่าว ตอนนี้หัวใจผมยังนิ่ง ๆ ไม่มีอะไร ผมไม่ได้ปิด มันเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ผมไม่มีเวลาไปนั่งนึกถึง และไม่ได้คิดด้วย เพราะคนที่จะมาคบกัน คนอาจจะมองว่าเป็นผมคงจะง่าย แต่จริง ๆ ตัวผมเองมันไม่ได้ง่ายหรอก"

ช่วงนี้วุ้นเส้น ดูสวยเซ็กซี่ขึ้น?
"เขาสวย และดูดีอยู่แล้ว ถามว่าห่วงเขาไหม ไม่หรอกครับ มันชีวิตเขา เราไม่ได้นั่งจู้จี้ เพราะเขาก็ไม่ได้มาจู้จี้อะไรกับเรา รู้แค่ว่าป็นห่วงกันอยู่ก็พอ มีอะไรก็สามารถปรึกษากันได้ตลอด คริสต์มาส ปีใหม่ มีอวยพรกัน แต่ไม่ได้เจอ ของขวัญก็ไม่มีครับ"

ล่าสุดมีภาพหลุดเรากอดกับสาวที่ทะเล?
"นั่นเป็นภาพหนังเรื่องแฟนเก่า ก็พยายามกันเข้าไป เดี๋ยวฟ้องนะ (หัวเราะ)"

รู้สึกยังไงที่โดนขุดภาพแบบนี้?
"ผมก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง มันก็ห้ามไม่ได้ ผมก็อยู่ของผมเฉย ๆ ขุดออกมาก็รู้อยู่ว่ามันไม่จริง เราเข้าใจว่าทำตามหน้าที่เนอะ แต่ก็เกรงใจกันนิดนึงบ้างก็ดี ถ้าบอกว่าคุณพึ่งผม ก็ให้ผมพึ่งคุณบ้างสิ”

กระทบกับจิตใจยังไงบ้าง?
“ก็มี ตอนนี้ก็ไม่ได้แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน คุณแม่ก็ป่วย ยังอาการหนัก เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะยื้อชีวิตเขาไว้ ผมก็โฟกัสตรงนั้นมากที่สุดแล้วตอนนี้ เพราะถ้าเขาเป็นอะไรไปก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาให้เราได้ยื้ออีกแล้ว"

อาการคุณแม่เป็นยังไงบ้าง?
"ดีขึ้นเรื่อย ๆ นะครับ เดินได้ แต่เรื่องความจำเนี่ย เขาก็อยู่กับปัจจุบันแหละ แต่ก็ต้องลุ้นเอาวันต่อวัน มันจะมีวันร้าย ถ้าพาเขาไปไหนไกล ๆ เขาก็ต้องมารีเซ็ตสมองใหม่ว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน เวลาพาไปเที่ยวต่างจังหวัดก็ค้างคืนไม่ได้ อยากจะกลับบ้าน มันลำบากอะครับ เราจะไปขัดใจเขาไม่ได้ ต้องเข้าใจเขาจริงๆ ผมเข้าใจความรู้สึกของเขาที่เรายื้อเขาไว้ จริง ๆ เขาอยากไปด้วยซ้ำ ตั้งแต่ตอนที่เขาล้ม แพราะว่าขาเคยบอกไว้นานแล้วว่า ถ้าเขาเป็นแบบนี้อย่าเอาเขาไว้นะ เพราะเขาเป็นคนที่ทำอะไรด้วยตัวเองมาตลอด เขารู้ว่าตัวเขาต้องเป็นเพราะเป็นตามกรรมพันธุ์ พี่น้องของแม่ทั้ง 4-5 คนเป็นกันหมด ซึ่งผมเองวันนึงก็ต้องเป็นเหมือนกัน”

เรารู้สึกยังไงบ้างที่คุณแม่พูดว่าไม่อยากจะอยู่แล้ว?
“แม่พูดกับผมตั้งแต่เด็ก จนชิน แต่พอเกิดขึ้นจริง ๆ เราไม่ปล่อย เพราะเชื่อว่ามันหายได้ และเชื่อว่าปฏิหารย์มีจริง เพราะว่าสมองเขาตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง แต่ตอนนี้กลับมาดีขึ้นเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่เขาอายุ 70 กว่า แม้แต่คุณหมอยังบอกว่าเป็นปฏิหาริย์ เพราะ 2 เดือนที่ผ่านมา ไม่ได้มีแค่อาการสโตรกคือเส้นเลือดในสมองแตกอย่างเดียว ยังมีลิ่มเลือดในหัวใจด้วย เขาอยู่โรงพยาบาล 2 เดือนเต็ม ไม่สามารถทำอะไรได้เลย นอกจากให้ยาปรับความดันอย่างเดียว ผมขอบคุณทุก ๆ คน ทั้งคุณหมอ เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลกรุงเทพ ที่ดูแลคุณแม่ ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นี้มันก็จะไม่ทำให้เราเข้มแข็งได้ขนาดนี้"

กังวลไหม เพราะว่ามันเป็นกรรมพันธุ์?
"ผมไม่สนใจหรอกครับ ถ้าจะเป็นก็ต้องเป็น ตอนนี้เราอย่าไปคิด ใช้ชีวิตตอนนี้ก่อน เราพยายามดูแลตัวเราให้ดีที่สุด ตัวผมเองมีเรื่องความดันบ้าง เพราะว่าทำงานเยอะ พักผ่อนไม่เป็นเวลา เครียดด้วย มันก็ต้องมีเป็นปกติ ผมก็ดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย แต่ห้ามเยอะเกินไปอีก พักผ่อนให้เพียงพอ กินวิตามิน ผมว่าดูแลเรื่องสุขภาพจิตของเราให้สบายดีกว่า เพราะงานเยอะ ไหนจะต้องดูแลคุณแม่อีก ตอนนี้เน้นงาน ร้าน แม่ นอนเมื่อมีโอกาส"



ภาพประกอบจากอินสตาแกรม @vjwoonsen, @shahkrit

ทีมข่าวหรรษา ดอท คอม รายงาน