digitalknowledge สมาชิก   2 กันยายน 2020 เยี่ยมชม :  188    ถูกใจ :  1 ได้ยินคำว่ายุค Disruption กันจนคุ้นหู แต่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่เข้าใจว่ายุค Disruption คืออะไรกันแน่ หมายความว่าอย่างไร ดังนั้นจึงควรเริ่มทำความเข้าใจกับคำว่า Disruption และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อทำให้ธุรกิจอยู่รอดและเดินหน้าต่อไปได้ Disruption คืออะไร? Disruption มีความหมายตรงตัวว่าการหยุดชะงักของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มักจะเกิดจากการที่มีสิ่งใหม่ ๆ ที่ดีกว่า หรือได้ผลมากกว่าออกมา ทำให้สิ่งที่มีอยู่ได้รับผลกระทบ และหยุดชะงักในที่สุด อย่างเช่นรถ Taxi ที่ถูก Disrupt ด้วยแอปพลิเคชันอย่าง UBER นั่นเอง แล้วยุค Digital Disruption หมายความว่าอย่างไร? ยุค Digital Disruption ก็คือยุคที่สื่อออนไลน์และดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสินค้าและบริการที่มีอยู่ ทำให้ธุรกิจที่มีอยู่หยุดชะงักลง อาจจะเพราะมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาแทนที่บริการนั้น ๆ หรือมีโปรดักส์ใหม่ ๆ ที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดมากขึ้น ซึ่งผู้ที่อยู่รอดได้ในยุค Disruption คือผู้ที่เริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน และยังรวมไปถึงผู้ที่รู้จักการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยได้ ยุค Disruption คือสิ่งที่ดีหรือแย่? จะมองว่าเป็นยุคที่ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กได้รับผลกระทบโดยตรงก็ไม่ผิดนัก แต่ถ้าหากเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก หรือ SME ต่าง ๆ รู้จักใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ ก็จะสามารถเพิ่มโอกาสและช่องทางการขายให้เพิ่มมากขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถือว่าสามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสได้เลยทีเดียว หากมองให้ดี ยุค Disruption คืออีกหนึ่งโอกาสที่ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ได้ท้าทายตัวเองให้สามารถอยู่รอดได้ภายใต้เงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลง อย่างการที่ห้างสรรพสินค้าเน้นการไลฟ์ขายสดออนไลน์มากขึ้น เพราะผู้บริโภคใช้จ่ายที่ห้างน้อยลงเป็นต้น สิ่งที่ธุรกิจขนาดเล็กต้องเข้าใจเกี่ยวพฤจิกรรมผู้บริโภคกับ ยุค Disruption ผู้บริโภคในยุค Disruption คือผู้ที่พร้อมจะเปลี่ยนใจจากแบรนด์ตลอดเวลา พฤติกรรมผู้บริโภคเน้นใช้สินค้าและบริการที่ง่าย สะดวก โฆษณามีอิทธิพลในการตัดสินใจน้อยลง เพราะศึกษาข้อมูลจากช่องทางอื่น ๆ ได้ง่าย ต้องการความแปลกใหม่ เพราะรู้สึกอยากลองสิ่งใหม่ ๆ ธุรกิจขนาดเล็กจะเอาตัวรอดอย่างไรในยุค Digital Disruption เมื่อรู้แล้วว่ายุค Disruption คืออะไร ขั้นต่อมาคือการหาทางใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจไปต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับโครงสร้างบริษัทและการทำงานให้สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น ตามทันเทรนด์และสื่อที่มีอยู่หลากหลาย ปรับ Business Model ให้มีความเหมาะสมกับยุคดิจิทัลมากขึ้น เริ่มต้นเก็บข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ทำความเข้าใจว่าการจะมีตัวตนอยู่ได้ในยุคนี้นั้น อาจจะต้องมีความยืดหยุ่นกันสักหน่อยในการปรับเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เลือกใช้และลงทุนเทคโนโลยีมากขึ้น เพราะเทคโนโลยีต่าง ๆ จะช่วยธุรกิจได้ในระยะยาว เพิ่มความมีประสิทธิภาพในการทำงาน และสามารถช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย เพราะยุค Disruption คือโอกาสสำหรับผู้ที่สามารถปรับเปลี่ยนตนเองได้อย่างรวดเร็ว เหล่าธุรกิจขนาดเล็กอย่าง SME ต่าง ๆ ก็อย่าลืมนำข้อแนะนำเหล่านี้ไปทดลองใช้กับธุรกิจเพื่อสร้างความแตกต่างและการเติบโตที่ยั่งยืน อ่านทั้งหมด