HunsaVee ผู้ดูแล   23 กันยายน 2019 เยี่ยมชม :  750    ถูกใจ :  6 หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล เล่าว่า บางครั้ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ทรงขับรถไปเยี่ยมราษฎรด้วยพระองค์เอง โดยผมนั่งอยู่ด้านหลังเพื่อใช้กล้องบันทึกภาพไปด้วย บางครั้งที่เสด็จพระราชดำเนินขึ้นเขา ผมจะเดินหน้าห่างจากพระองค์ซัก ๑ วา เวลาหกล้มไปพระองค์ก็ทรงฉุดให้ลุกขึ้น ตอนนั้น พระองค์ทรงมีพระชนมายุ ๖๐ พรรษา แล้วนะ ส่วนผมก็ ๕๐ กว่าๆ เห็นจะได้ พระองค์ท่านจึงตรัสว่า “ทำไมถึงสู้แรงเราไม่ได้” (หัวเราะ) นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมประทับใจมาก มีอีกครั้งหนึ่งที่ผมไม่เคยลืม คือตอนที่พระเจ้าอยู่หัวทรงขับรถเข้าไปในสลัมแถวคลองรังสิต พอไปถึงพระองค์ก็ทรงก้าวพรวดลงจากรถประชาชนที่อาศัยอยู่ที่นั่นต่างตกอกตกใจเป็นการใหญ่ว่าในหลวงเสด็จฯ จึงรีบเปิดไฟกันพรึบพรับ ครั้งนั้น เสด็จฯไปทอดพระเนตรน้ำในคลอง แล้ว ตรัสถามประชาชนว่าน้ำที่เห็นอยู่นี้นำไปใช้อะไรบ้าง เขาก็บอกว่าใช้ทั้งกินทั้งอาบ แต่ พระองค์ทรงให้ความรู้ว่าน้ำนี้กินไม่ได้นะ เป็นอันตราย หลังจากนั้นจึงเกิดโครงการเอาน้ำดีมาไล่น้ำเสีย เรื่องเกี่ยวกับน้ำ ผมทำงานถวายพระองค์ท่านมานานหลายปีแล้ว โดยออกไปสำรวจคูคลองต่างๆ ในกรุงเทพฯแล้วถ่ายภาพมาถวายให้ทอดพระเนตรเพื่อที่จะได้ทรงวางแนวทางแก้ไข ไม่ต้องให้ประชาชนต้องประสบกับอุทกภัย ผมอาสาทำงานถวายพระองค์ท่านเพราะผมเรียนมาทางด้านธรณีวิทยา ผมทำงานด้วยใจรักแล้วดีใจที่ได้แบ่งเบาพระราชภาระ ส่วนหนึ่งเพราะ พระเจ้าอยู่หัวทรงงานหนักอยู่ตลอดเวลา ภารกิจหลักของพระองค์ท่านคือเรื่องน้ำ ถ้าน้ำท่วม พระองค์ก็ทรงหาทางช่วยบรรเทาทุกข์ถ้าน้ำแห้ง พระองค์ท่านก็พระราชทานฝนหลวงแก่ประชาชน ผมเคยถามพระองค์ว่า เมื่อได้ข้อมูลเหล่านี้มาแล้วจะให้ไปบอกกล่าวกับหน่วยงานใดของรัฐบาลให้เขาช่วยแก้ปัญหา พระองค์ทรงเงียบไปครู่หนึ่ง และก็ตรัสด้วยพระราชอารมณ์ขันว่า “ก็ต้องไปบอกโง่ยังไงล่ะ” ตอนแรกผมก็ยังไม่เข้าใจ กระทั่งทรงอธิบายว่า โง่นั้นหมายถึง NGO ซึ่งเป็น องค์กรอิสระ ที่ทำงานอย่างไม่หวังผลตอบแทน ในปัจจุบันนี้ จึงมีองค์กรโง่ในพระบรมราชูปถัมภ์อยู่มากมาย (ยิ้ม) อ่านทั้งหมด