HunsaVee ผู้ดูแล   9 มกราคม 2019 เยี่ยมชม :  437    ถูกใจ :  6 เรากังวลกับมลพิษทางอากาศ เรากังวลกับอุบัติภัยและอุบัติเหตุ เรากังวลต่อปัญหาสุขภาพจากอาหารการกิน แต่เราไม่ควรลืมความใส่ใจเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะเซ็กซ์กับมนุษย์คือของคู่กัน เดือนธันวาคมของทุกปี มีวันที่ 1 เป็นวันเอดส์โลก (World AIDS Day) ในปี 2561 นี้ กรมควบคุมโรคกำหนดคำขวัญวันเอดส์โลก คือ “Know Your Status : ตรวจเร็ว รักษาเร็ว ยุติเอดส์” เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนได้รู้และเข้าใจในเรื่องของเอชไอวีและเอดส์ นานาประเทศมีเป้าหมายมุ่งยุติปัญหาเอดส์ร่วมกันภายในปี 2573 ซึ่งมีเป้าหมายหลัก 3 ประการ คือ ลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ให้เหลือไม่เกินปีละ 1,000 คน ลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อเอชไอวี ให้ไม่เกินปีละ 4,000 คน ลดการรังเกียจและการเลือกปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องจากเอชไอวีและเพศสภาพ ลงจากเดิมร้อยละ 90 รายงานจาก กรมควบคุมโรค ระบุว่า การทำให้คนที่มีความเสี่ยงทุกคนเข้าถึงการตรวจเลือด และหาเชื้อเอชไอวีได้เร็ว เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ส่งเสริมการรักษาได้เร็ว ช่วยให้ผู้ติดเชื้อใช้ชีวิตและอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ แม้ว่าผู้คนจะได้รับการศึกษา การสอน และการเตือนอยู่เสมอๆ ในทุกช่องทางสื่อสาร ทว่า เราต่างยังคงขาดความตระหนัก มาร่วมทบทวนว่า เอชไอวี และเอดส์นั้น ติดต่อได้จากทางใดบ้าง โอกาสที่คุณจะติดเชื้อเอชไอวี...มากที่สุด * การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดหรือทวารหนักกับผู้ติดเชื้อโดยไม่ป้องกัน หรือรับประทานยาต้านเชื้อเอชไอวี * การใช้เข็มฉีดยาหรืออุปกรณ์เตรียมฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อเอชไอวี สาเหตุที่คุณจะติดเชื้อเอชไอวี...ได้บ้าง * การแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูกขณะตั้งครรภ์ ระหว่างการคลอด หรือผ่านการให้นมบุตร โดยจะมีความเสี่ยงสูงหากมารดาไม่ได้รับประทานยาสำหรับรักษาหรือต้านเชื้อเอชไอวี * ผู้ที่ทำงานกับอุปกรณ์ที่อาจปนเปื้อนเชื้อ HIV เช่น เข็มฉีดยา หรือของมีคม สาเหตุที่คุณจะติดเชื้อเอชไอวี...ได้น้อย (แต่ก็ยังรับเชื้อได้) * การมีเพศสัมพันธ์ทางปาก * ได้รับเลือด หรือการปลูกถ่ายอวัยวะ จากผู้ติดเชื้อ * การถูกกัดที่รุนแรงจนมีเลือกไหลหรือแผลฉีกขาดโดยผู้ติดเชื้อ * การสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อเอชไอวีกับบริเวณที่เป็นแผลหรือเยื่อเมือกบุผิว * การจูบแบบเปิดปาก หากทั้งสองฝ่ายมีแผลหรือมีเลือดออกตามไรฟัน และฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเชื้อเอชไอวี อีกฝ่ายอาจติดเชื้อได้ ทั้งนี้ เชื้อเอชไอวีนั้นไม่ติดต่อกันผ่านน้ำลาย “ข้อเท็จจริงข้างต้น ไม่ได้ต้องการให้ใครกลัว กังวล หรือเป็นทุกข์กับการใช้ชีวิต แต่คุณต้องรอบคอบ ระแวดระวัง และรู้จักป้องกันเสมอ ไม่เอาชีวิตและสุขภาพไปเสี่ยงกับเพศสัมพันธ์แบบขาดสติและขาดการป้องกันเด็ดขาด“ ที่สำคัญ จำเป็นต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ แม้ว่าคุณเป็นผู้ติดเชื้อหรือไม่ก็ตาม หมั่นออกกำลังกาย และรับประทานอาหารหลักให้ครบหมู่ และรับประทานอาหารเสริม วิตามิน เกลือแร่ และสารจำเป็นตามความเหมาะสมของร่างกายแต่ละคน “เอชไอวี ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ที่ต้องทำคือควรตระหนักไว้เสมอ ว่าต้องใช้ชีวิตอย่างไร ไม่ปล่อยให้ความประมาทอยู่เหนือสติ” ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ทีมนักวิจัยจาก Operation BIM กล่าวปิดท้าย อ่านทั้งหมด